ประเด็นสุขภาพที่โลกกำลังจับตามอง หรือแนวโน้มงานการสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion Trends) ต่อไปนี้ คือ แนวโน้มที่จะ เปลี่ยนโฉมหน้าเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพ
1. สุขภาพเคลื่อนที่ได้ (Mobile Health) ภาคส่วนที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ นำเสนอคำสัญญาให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากที่สุด มันไม่ได้เกินเลยที่จะกล่าวว่าการถือครองของอุปกรณ์ที่มีแอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพในมือถือประเภทสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ของบรรดาแพทย์และผู้บริโภคเป็นดั่งกระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลง จากการสำรวจของ Pricewaterhouse Coopers (PwC) และจากแพทย์ทั้งในประเทศตลาดเกิดใหม่ และประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก โดยคร่าว ๆ ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคทำนายว่าภายในสามปีข้างหน้าสุขภาพแบบเคลื่อนที่ได้นี้จะช่วยปรับปรุงความสะดวกสบาย (ร้อยละ 46) มีต้นทุนลดลง (ร้อยละ 52) และคุณภาพ (ร้อยละ 48) ในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ
2. บันทึกเวชระเบียนส่วนตัว (Personal health records) จะมาในรูปแบบของ เวชระเบียนแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ เครื่องมือนี้จะเชื่อมเวชระเบียนส่วนตัวเข้ากับเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ส่วนกลาง ยกตัวอย่างข้อมูลที่จะมีก็คือ สถิติจำนวนประชากร อาการแพ้ต่าง ๆ ยา สัญญาณการเจ็บป่วย ประวัติครอบครัวและสังคม กระบวนการ การทดสอบจากห้องทดลอง และแผนการดูแลผู้ป่วย เป็นต้น
3. การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบดูแลรักษาสุขภาพใหญ่ ๆ หลายแห่ง ได้สร้างสัมพันธ์กับบริษัทให้บริการทางการแพทย์ทางไกลเพื่อจัดหาให้บริการแก่แพทย์ในเรื่องโทรศัพท์และการให้คำปรึกษาผ่านระบบวิดีโอ
4. เหล่าผู้ให้บริการจัดทำเวชระเบียนอิเลกทรอนิกส์ จะประสบกับภาวะที่ต้องอยู่ให้ได้ในภาวะ การแข่งขันทางการตลาดที่สูง ผู้ให้บริการที่กระโจนลงไปเล่นในธุรกิจนี้เร็วเกินไป และไม่สามารถให้บริการ ตามที่ได้สัญญาไว้ ก็จะประสบกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจ กลับกันสำหรับบริษัทที่อยู่รอดได้ก็จะพัฒนาต่อไปได้ และในที่สุดก็จะปรับปรุงให้บริการการดูแลแก่ผู้ป่วย
5. วิเคราะห์วิทยาด้านการแพทย์ (Clinical Analytics) ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ตามไม่ทันวิเคราะห์วิทยาด้านการแพทย์ที่เป็นสาระหนัก ๆ หลาย ๆ ระบบสามารถแพร่กระจายรายงานที่ง่าย ๆ แต่มันไม่เพียงพอที่จะตอบรับกับอุปสงค์ของผู้ให้บริการเพื่อให้ตอบโจทย์กฎข้อบังคับของรัฐบาล ในเรื่องความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกันและผลงานด้านการแพทย์
โรงพยาบาลหลาย ๆ แห่ง จะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการใช้เครื่องมือวิเคราะห์วิทยา ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ในปี 2011 โรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกาใช้เครื่องมือวิเคราะห์วิทยาข้อมูลด้านสุขภาพเพียงแค่ร้อยละ 10 แต่ตัวเลขจะพุ่งสูงขึ้นไปแตะที่ราวร้อยละ50 ในปี 2016