เช็คสภาพหัวใจด้วยตัวคุณเอง

 

หัวใจ เต้นผิดจังหวะหรือไม่นั้น หากคุณไปพบคุณหมอในเวลาต่อมา อาการ และการเต้นผิดจังหวะของหัวใจได้หายแล้ว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจไม่กี่วินาที อาจไม่พบความผิดปกติ ดังนั้นคุณอาจมีส่วนช่วยในการวินิจฉัย โดยการจับชีพจร และนับอัตราการเต้นของชีพจรในระยะเวลา 1 นาที และสังเกตจังหวะของชีพจรเร็วกว่าปกติหรือไม่ ชีพจรสม่ำเสมอหรือเร็วช้าไม่สม่ำเสมออย่างไร

หรือ สำรวจด้วยการเช็คสมรรถภาพร่างกาย หากลดลง เช่น เหนื่อยง่าย มีอาการเจ็บหน้าอก หน้ามืดเป็นลมบ่อย หัวใจสั่นมากผิดปกติทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกาย มีอาการบวมในร่างกายเกิดขึ้น นอนราบไม่ได้ ต้องนอนหัวสูงเท่านั้น ในรายที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะเช็คสภาพหัวใจได้ง่าย แต่ในรายที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย แน่นอน วิ่งนิดหน่อย คุณก็เหนื่อยแล้ว

การ ดูแลรักษาในเบื้องต้น คุณหมอจะสอบถามประวัติการตรวจร่างกาย การตรวจเอ็กซเรย์เงาปอด และหัวใจ และการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อช่วยการวินิจฉัย หรือนำไปสู่การส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติมที่เหมาะสม ส่วนใครสงสัยว่า ฉันอาจมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาดหรือไม่นั้น แพทย์อาจส่งตรวจการเต้นของหัวใจด้วยการเดิน วิ่ง สายพานเลื่อน หรือผู้ใดที่สงสัยว่าตัวเอง มีความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจหนา หัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ลิ้นหัวใจตีบ หรือผนังกั้นหัวใจรั่ว หรือโรคของ เยื่อหุ้มหัวใจ คุณหมอก็จะส่งตรวจด้วย เครื่องตรวจเสียงสะท้อนหัวใจ (Ecohocardigraphy) อีกครั้งหนึ่ง

นอก จากนี้ การรักษายังขึ้นอยู่กับผลการตรวจว่า มีหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือไม่ ถ้ามี การที่หัวใจเต้นผิดจังหวะนั้นเป็นชนิดใด และที่สำคัญมีสาเหตุจากโรคหัวใจ หรือ ความผิดปกติของอวัยวะใด การรักษาที่สำคัญ คือ รักษาที่สาเหตุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว หากหลอดเลือดหัวใจตีบมาก อาจต้องได้รับการรักษาด้วยการ ขยายหลอดเลือดหัวใจ เช่น การทำบอลลูน หรือการถ่างหลอดเลือด ด้วยขดลวดต่อไป

การนอนหลับช่วยกำจัดขยะสมองได้นะ

รู้เปล่า? ผลวิจัยชี้ “นอนหลับ” ช่วยกำจัดขยะสมอง ผลงานวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสารไซน์ส เปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ชี้ว่า ระหว่างการนอนหลับสมองจะเกิดกระบวนการกำจัดขยะ และยังเป็นกระบวนการที่ช่วยป้องกันโรคอีกด้วย ซึ่งผลการค้นคว้าดังกล่าวตอบคำถามที่ว่า เพราะเหตุใดมนุษย์จึงต้องใช้เวลานอนหลับถึง 1 ใน 3 ของชีวิต และอาจช่วยรักษาอาการสมองเสื่อมรวมถึงความผิดปกติทางระบบประสาทอื่นๆ ได้อีกด้วย

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์โรเชสเตอร์ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นำโดยนายไมเคน เนเอร์การ์ด ได้ทำการทดลองในหนูทดลอง พร้อมสังเกตการกำจัดเซลล์ขยะ รวมไปถึงโปรตีนที่ชื่อว่าแอมีลอยด์ บีตา โปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการสมองเสื่อม ทางหลอดเลือดเข้าสูระบบหมุนเวียนของร่างกายก่อนที่จะถูกส่งไปยังตับ

นักวิจัยชี้ว่าน้ำหล่อสมองไขสันหลังซึ่งถูกสูบฉีดเข้าไปในสมองจะทำหน้าที่กำจัดขยะดังกล่าวในช่วงเวลาที่กำลังหลับ โดยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เซลล์หดตัวส่งผลให้น้ำหล่อสมองไขสันหลังสามารถเคลื่อนที่ไปทั่วสมองได้อย่างรวดเร็วและกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตอนที่ตื่นอยู่ถึง 10 เท่า โดยนักวิทยาศาสตร์เรียกกระบวนการดังกล่าวว่าระบบ กลิมพาติก

เห็นมั้ยล่ะค่ะว่าการนอนหลับนั้นมีความสำคัญมากเพียงใดต่อร่างกายของคนเรา ดังนั้นเราควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะค่ะ

ดูแลสุขภาพจิต และสุขภาพกายให้ดีกันเถอะครับ

สวัสดีครับวันนี้ผมเองก็จะมานำเสนอเรื่องราวของ “สุขภาพ” กันบ้างครับ สุขภาพนับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้สิ่งใดเลยครับ อาจจะดังเช่นพระท่านกล่าว “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” ผู้อ่านเชื่อไหมครับว่าคำว่า “สุขภาพ” เนี่ยสามารถส่งผลต่ออะไรได้หลายด้านมาก สำหรับวันนี้นี่เองผมก็อยากจะมาเขียนบทความหนึ่ง และพูดเรื่องความสำคัญของสิ่งนี้ครับ อันที่จริงเราทุกคนเกิดมาก็มีสิ่งที่อยากได้ มีสิ่งที่ต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราทุกคนล้วนต้องการความสุข

ดูแลสุขภาพจิต และสุขภาพกายให้ดีกันเถอะครับ

ดูแลสุขภาพจิต และสุขภาพกายให้ดีกันเถอะครับ

และถ้าเรามาพิจารณากันให้ดีว่าอะไรบ้างที่พอจะเป็นแหล่งที่มาของความสุข ซึ่งในที่นี้ผมก็ขอพูดกันในภาพกว้าง ๆ นะครับ อย่างแรกเลยเราจะมีความสุขไม่ได้เลยถ้าสุขภาพไม่ดี ดังนั้นสุขภาพต้องดีก่อน ต่อมาคือเรื่องการงาน หรือเรื่องของการทำงานที่ดี ต่อด้วยเรื่องฐานะการเงินที่ดี ครอบครัวที่ดี สังคมที่ดี และจิตใจที่ดี ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้นี่แห่งที่จะให้แหล่งที่มาของความสุขได้แบบสนิทใจกับเราจริง ๆ

ดังนั้นแนะนำให้ผู้อ่านเริ่มต้นที่สุขภาพก่อนครับว่าจะต้องดี เพราะถ้าสุขภาพไม่ดีอาจจะทำลายแหล่งที่มาของความสุขอื่น ๆ จนกลายมาเป็นปัญหาชีวิตก็เป็นได้ครับเช่น สุขภาพเราไม่ดี ทำให้การทำงานของเรานั้นย่ำแย่ ไม่เสมอต้นเสมอปลาย ลาบ่อย หรือหยุดพักบ่อยครั้ง พอการทำงานแย่ ก็อาจจะส่งผลให้สถานะ หรือฐานะทางการเงินของเรานั้นย่ำแย่ลงตาม พอสถานะทางการเงินย่ำแย่ ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนจนไม่มีเวลาดูแลกันเท่าที่ควร การมีครอบครัวที่ดีและอบอุ่นก็จะห่างหายไปจากชีวิตเรา และหากว่าเราต้องทำงาน แบกรับภาระปัญหาชีวิตมากเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะออกไปพบคนในสังคม หรือโอกาสที่จะไปให้ความช่วยเหลือสังคมก็น้อยลง ยังคงเหลือสิ่งสุดท้ายคือจิตใจที่ดี สิ่งนี้ผมถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลย อาจจะสำคัญที่สุดด้วยซ้ำไป ถ้าดูแลในส่วนนี้ไม่ดี ปัญหาชีวิตทุกอย่างอาจจะหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เลย และสำหรับบทความในบล็อกนี้ ผมก็จะมาเขียนให้อ่านทั้งเรื่องสุขภาพกาย และสุขภาพจิตต่อไปครับผม